น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์
น้ำมันลาเวนเดอร์ได้รับความนิยมมานานหลายพันปีตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ กลิ่นลาเวนเดอร์ถูกใช้เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมในการอาบน้ำและซักผ้า และเป็นสมุนไพรสำหรับทำอาหารและยารักษาโรค ชาวเปอร์เซีย กรีซ และโรม เชื่อว่าลาเวนเดอร์ช่วยชำระล้างร่างกายและจิตใจ รากศัพท์ภาษาละตินของลาเวนเดอร์คือ “lavare” ที่แปลว่า “การชำระล้าง”
ลาเวนเดอร์เป็นน้ำมันยอดนิยมสารพัดประโยชน์สำหรับอโรมาเธอราพี กลิ่นลาเวนเดอร์มีความหอมของดอกไม้ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย คลายเครียด และส่งเสริมการนอนหลับที่ดี มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดและต้านอนุมูลอิสระ
ลาเวนเดอร์ยังเป็นน้ำมันที่อ่อนโยนต่อผิว ให้สรรพคุณในการดูแลผิวอีกมากมาย เช่น ถลอก บาดแผล รอยไหม้ และรอยฟกช้ำเล็กน้อยโดยเติมลงในน้ำมันนวด และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ช่วยให้ผิวนุ่มและปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น สบู่ โลชั่น และผลิตภัณฑ์เพื่อความงามอื่นๆ มากมายจึงนิยมใช้น้ำมันมันลาเวนเดอร์เป็นส่วนประกอบ
ลินาลูล (Linalool) เป็นสารประกอบกลุ่มเทอร์พีนที่สำคัญในน้ำมันลาเวนเดอร์ มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นสำหรับความสามารถในการช่วยผ่อนคลายประสาท และอารมณ์ ลินาลูลยังมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ และไล่แมลง
สรรพคุณของน้ำมันลาเวนเดอร์
🌸 อาจช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองผิวเล็กน้อยเมื่อทาเฉพาะที่
🌸 กลิ่นลาเวนเดอร์ช่วยสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบ และผ่อนคลาย
🌸 ช่วยรักษาแผลไฟไหม้แบบไม่รุนแรงได้ดี มีคุณสมบัติบรรเทาอาการปวด ลดการอักเสบ ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น*
🌸 อาจช่วยบรรเทาความเครียดเป็นครั้งคราว*
🌸 อาจช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอน สำหรับอาการนอนไม่หลับเป็นครั้งคราว*
🌸 มีคุณสมบัติในการล้างสารพิษตกค้าง และต้านอนุมูลอิสระ*
9 ประโยชน์สุขภาพจากลาเวนเดอร์
🌸 นอนไม่หลับ: ลาเวนเดอร์นิยมสำหรับผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ ผู้คนในสมัยโบราณมักยัดหมอนด้วยดอกลาเวนเดอร์เพื่อช่วยให้นอนหลับและพักผ่อนได้ดีขึ้น มีการวิจัยชี้ให้เห็นว่ากลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนได้
🌸 ความวิตกกังวล: ลาเวนเดอร์อาจช่วยผู้ที่มีความวิตกกังวลให้รู้สึกกังวลน้อยลง และนอนหลับได้ดีขึ้น จากการศึกษาสรรพคุณในการช่วยลดความวิตกกังวลของลาเวนเดอร์ในผู้ป่วย 60 คน
🌸 สมาธิ: University of Miami มีงานวิจัยผลของการสูดดมกลิ่นลาเวนเดอร์ ช่วยปรับความถี่คลื่นสมองให้อยู่ในช่วงเบต้า (ความถี่ 13 – 38 Hz) ซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาวะของกิจกรรมทางจิต ปัญญา และสมาธิ พบว่าผู้เข้าร่วมทดลอง 40 คน มีอาการซึมเศร้าน้อยลง รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และทำการคำนวณทางคณิตศาสตร์ได้เร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นหลังการบำบัดด้วยกลิ่นหอมจากลาเวนเดอร์
🌸 ผมร่วง: นวดน้ำมันหอมระเหยที่ผสมผสานจากโหระพา โรสแมรี่ ลาเวนเดอร์ และซีดาร์วูด เจือจางด้วยน้ำมันตัวพาบนหนังศีรษะทุกวันเป็นเวลาเจ็ดเดือน ในงานวิจัยผู้ที่ทดลองสูตรนี้ 86 คน พบว่า 44% มีการเจริญเติบโตของเส้นผมที่ดีขึ้น
🌸 ปวดหัวและไมเกรน: ลาเวนเดอร์อาจช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะหรือไมเกรนครั้งคราวได้ มีงานวิจัยที่ศึกษาผลการสูดดมน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์เป็นเวลา 15 นาที พบว่าช่วงลดความรุนแรงและความถี่ของอาการปวดศีรษะได้
🌸 สิว: น้ำมันลาเวนเดอร์อาจเป็นวิธีที่อ่อนโยนในการจัดการกับปัญหาสิว ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ทำความสะอาดรูขุมขนและลดการอักเสบเมื่อทาลงบนผิว มีงานวิจัยศึกษาการผสมน้ำมันลาเวนเดอร์และสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ที่สามารถช่วยยับยั้งการเกิดสิวได้
🌸 แผลไฟไหม้: ลาเวนเดอร์ถูกใช้เป็นยาแผนโบราณสำหรับแผลไฟไหม้มาอย่างยาวนาน งานวิจัยฤทธิ์ต้านจุลชีพของลาเวนเดอร์พบว่าอาจช่วยป้องกันการติดเชื้อหลังแผลไฟไหม้ที่ไม่รุนแรง
🌸 ปัญหาผิวหนัง: สารประกอบลินาลูล (Linalool) และ ลินาลิลอะซิเตท (Linalyl acetate) ในน้ำมันลาเวนเดอร์อาจช่วยบรรเทาปัญหาผิว เช่น กลาก โรคผิวหนัง สะเก็ดเงิน อาการคัน หรือผื่น ที่ไม่รุนแรง
🌸 ปัญหาริ้วรอย จุดด่างดำ: น้ำมันลาเวนเดอร์เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยปกป้องปัญหาริ้วรอยจากอนุมูลอิสระ อาจช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นเนื่องจากช่วยลดการอักเสบ ช่วยลดการเปลี่ยนสีผิวรวมทั้งจุดด่างดำ
เคล็ดลับวิธีใช้ Young Living Lavender Essential Oil
🌸 ทาลาเวนเดอร์หลังจากผิวโดนแดด หรือเติมลงในเซรั่ม หรือมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวหน้า
🌸 ใช้กับเครื่องกระจายกลิ่น เพลิดเพลินไปกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ ช่วยให้ห้องกลิ่นหอมสะอาด ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
🌸 ผสม Lavender กับ Cedarwood และ Orange เพื่อสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบในเวลานอน
🌸 หยดลาเวนเดอร์ 4 หยดและเกลือ Epsom 1 ถ้วยลงในอ่างอาบน้ำเพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
🌸 ใช้นวดคอหรือหลังเพื่อช่วยผ่อนคลาย
🌸 ใช้ดูแลผิวเฉพาะจุดสำหรับริ้วรอยบนใบหน้า รอยดำ รอยแดงจากสิว ฝ้า กระ
🌸 โทนเนอร์บำรุงผิวหน้า ผสมน้ำมันลาเวนเดอร์ 1-2 หยดกับโทเนอร์ Witch Hazel 1 ช้อนชา จุ่มสำลีก้อนลงในส่วนผสมแล้วถูเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า
🌸 ผสมน้ำมันลาเวนเดอร์ 1 หยดกับน้ำมันอาร์แกน 1 หยด ทาบนสิวโดยตรงวันละสองครั้ง
🌸 ผสมลาเวนเดอร์ 1-2 หยดในน้ำอุ่น ดื่มก่อนนอน อาจช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนสำหรับผู้ที่นอนไม่หลับเป็นครั้งคราว*
🌸 เติมลาเวนเดอร์ 2 หยดลงในแคปซูลมังสวิรัติเพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติล้างสารพิษและต้านอนุมูลอิสระ*
🌸 ดูแลเส้นผมสัปดาห์ละครั้ง ผสมน้ำมันลาเวนเดอร์กับน้ำมันโจโจบา ทานวดเส้นผมและหนังศรีษะหลังอาบน้ำ ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก (หรือห่อผมในผ้าขนหนูแล้วทิ้งไว้ค้างคืนก็ยังได้)
🌸 ถ้ารู้สึกเครียดจนนอนไม่หลับ หรือหลับยาก หลับไม่สนิท ลองผสม Lavender กับน้ำมันหอมระเหย Frankincense และ Stress Away อย่างละ 2-3 หยดลงในเครื่องกระจายกลิ่น ทำเป็นกลิ่นอโรมาผ่อนคลายในห้องนอน
🌸 สูตรอโรมากลิ่นผ่อนคลายในห้องนอนอีกสูตรที่แนะนำคือ Lavender, Stress Away และ Peace & Calming อย่างละ 2-3 หยด ใส่ในเครื่องพ่นอโรมาเปิดในห้องนอน
น้ำมันลาเวนเดอร์ Young Living มีในชุดน้ำมันหอมระเหย Premium Starter Kit (US) และ Premium Starter Kit (Inter)
ความแตกต่างของสายพันธุ์ลาเวนเดอร์
🌸 English lavender (Lavandula angustifolia) – ลาเวนเดอร์สามัญ หรือลาเวนเดอร์แท้ ให้กลิ่นหอมหวาน นำมาใช้ในอโรมาเธอราพี ยาทาเฉพาะที่ น้ำหอม และเครื่องสำอาง
🌸 Portuguese lavender (Lavandula latifolia) – ลาเวนเดอร์โปรตุเกส มีปริมาณเทอร์ปีนส์ และการบูรที่สูงกว่าลาเวนเดอร์แท้ มีกลิ่นหอมฉุน มีราคาถูก มักใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม เครื่องสำอาง
🌸 Dutch lavender (Lavandula × intermedia) – ลาเวนเดอร์ไฮบริด หรือ ลาวานดิน (Lavandin) มีปริมาณเทอร์ปีนส์ และการบูรสูง กลิ่นหอมฉุนคล้ายลาเวนเดอร์โปรตุเกส
น้ำมันที่ใช้คู่กับลาเวนเดอร์
ลาเวนเดอร์เป็นน้ำมันที่จับคุ่กับน้ำมันหอมระเหยอื่นๆ ได้อีกหลากหลาย บางคนชอบผสมกับน้ำมันส้ม (Orange) หรือน้ำมันส้มเขียวหวาน (Tangerine)
แหล่งปลูกและผลิตน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ของ Young Living
🌎 Young Living Lavender Farm and Distillery: MONA, UTAH, USA
🌎 St. Maries Lavender Farm and Distillery: ST. MARIES, IDAHO, USA
🌎 Simiane-la-Rotonde Lavender Farm and Distillery: SIMIANE-LA-ROTONDE, FRANCE
น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ของ Young Living คัดสรรวัตถุดิบบริสุทธิ์จากแหล่งปลูกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดทั่วโลก
ผ่านการตรวจสอบคุณภาพโดยนักวิทยาศาสตร์กว่า 50 คน จากห้องปฎิบัติการของบริษัท และห้องปฎิบัติการเอกชนชั้นนำที่ได้รับการรับรองอีก 2 แห่ง
ความปลอดภัยในการใช้น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์
ทาเฉพาะที่: ใช้ 2-4 หยดโดยตรงไปยังบริเวณที่ต้องการ ไม่จำเป็นต้องเจือจาง ยกเว้นผิวบอบบาง
กระจายกลิ่น: ได้ถึง 1 ชั่วโมง 3 ครั้งต่อวัน
ส่วนของพืชที่ใช้: ยอดดอกลาเวนเดอร์ (กลั่นด้วยไอน้ำ); Lavandula angustifolia (Lavender) flowering top
ส่วนประกอบสำคัญ: Linalyl acetate, Linalool
Young Living Lavender Essential Oil และ Lavender Vitality เป็นน้ำมันชนิดเดียวกัน
แม้ว่าน้ำมันลาเวนเดอร์จะอ่อนโยนต่อผิว และสามารถใช้ทาผิวได้โดยไม่จำเป็นต้องเจือจาง แต่ก็ขึ้นอยู่กับความไวของผิวแต่ละคนด้วย บางคนอาจมีอาการแพ้ที่ผิวหนังหลังการใช้น้ำมันลาเวนเดอร์ ให้เจือจางด้วยน้ำมันตัวพา และทดสอบกับผิวสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง หากเจือจางแล้วยังคงเกิดผื่น ลมพิษ หรือผิวหนังอักเสบให้หยุดใช้ทันที อาจเป็นสัญญาณว่าคุณแพ้น้ำมันลาเวนเดอร์
*ข้อความเหล่านี้ยังไม่ได้รับการประเมินโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา งานวิจัยอ้างอิงต่างๆ วัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับพืชสมุนไพรวัตถุดิบและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ Young Living ผลิตภัณฑ์ Young Living ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อวินิจฉัย บำบัด รักษา หรือป้องกันโรคใดๆ เก็บให้พ้นมือเด็ก หากคุณกำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ใช้ยา หรือมีอาการป่วย ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนใช้